ประวัติของ Starbucks
ช่วงทศวรรษที่ 70
หรือเริ่มต้นปี พ.ศ. 2514
ได้ถือกำำเนิดขึ้นเป็นครั้งแรกที่ตลาดไพค์ เพลส (Pike
Place Market) เมืองซีแอตเติล มลรัฐวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา
โดยคอกาแฟสามคนคือ กอร์ดอน โบเคอร์ (Gordon Bowke r) เจอรี
บัลด์วิน (Jerry Baldwin) และซิฟ ซีเกิล (Ziv
Siegle) และใช้โลโกเป็นรูปไซเรนสองปลาย ที่โดดเด่น
ทั้งสามตั้งเป้าหมายว่าจะจำำหน่ายกาแฟชั้นเลิศ และถั่วอย่างดี
ช่วงทศวรรษที่ 80 หรือเริ่มต้นปี พ.ศ. 2524
สตาร์บัคส์ก็มีสาขาห้าแห่ง
และจำำหน่ายกาแฟให้ร้านอาหาร และซุ้มเอส เปรสโซในซีแอตเติล และปีนั้น เอง
ที่โฮเวิร์ด ชูลทส์เข้ามาร่วมงานกับสตาร์บัคส์ โดยบริหารงานด้านการตลาด และค้าปลีก
เมื่อชูลทส์เดินทางไปอิตาลีใน ปีถัดมา และ พบว่าบาร์กาแฟนั้น เป็นที่นิยมอย่างมาก
เขาจึงเสนอให้ สตาร์บัคส์เปิดบาร์กาแฟในเมืองซีแอตเติล ซึ่งผลปรากฏว่าประสบความสำเร็จ ชูลทส์ตัดสินใจ ลาออกจากบริษัทในปี 1985 เพื่อไปเปิดบาร์กาแฟของตนเอง ใช้ชื่อว่า "อิล จิออร์เนล" (Il
Giornale) และ จำำหน่ายกาแฟของสตาร์บัคส์
ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2544
เป็นต้นมา
ปรากฎการณ์ความนิยมสตาร์บัคส์ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง
ปัจจุบัน สตาร์บัคส์มีร้านกาแฟกว่า 6,000 แห่งใน 30 ประเทศทั่วโลก นอกจากกาแฟเอสเพรสโซ่รสชาติเยี่ยมแล้ว
ลูกค้ายังสามารถเพลิดเพลินกับชาทาโซ่
และแฟรบปูชิโน่เครื่องดื่มปั่นสูตรพิเศษจากสตาร์บัคส์ได้อีกด้วย
สตาร์บัคส์ในประเทศไทย
ร้านสตาร์บัคส์ คอฟฟี่ได้เปิดตัวครั้งแรกในประเทศไทย
เมื่อเดือนกรกฎาคม 2541 ณ ห้างเซ็นทรัล ชิดลม โดยบริษัท
คอฟฟี่ พาร์ทเนอร์ส จำำกัด เป็นผู้ริเริ่มแนะนำสตาร์บัคส์ให้แก่ลูกค้าชาวไทย ในเดือนกรกฎาคม
2543 บริษัท สตาร์บัคส์ คอฟฟี่ จำำกัด
ได้เข้ามาถือสิทธิ์กิจการทั้งหมดของบริษัทคอฟฟี่ พาร์ทเนอร์ส จำำกัด นเดือนมกราคม 2545 บริษัท
สตาร์บัคส์ คอฟฟี่ จำำกัด เมืองซีแอตเติล มลรัฐวอชิงตัน
ประเทศสหรัฐอเมริกาได้มอบหมายให้ Mr.Andrew Nathan มาดำำรงตำำแหน่งเป็นกรรมการผู้จัดการของ บริษัท สตาร์บัคส์ คอฟฟี่ ประเทศไทย 
ผลิตภัณฑ์ของสตาร์บัคส์
ประกอบด้วยประเภทกาแฟผสมและไม่ผสมมากกว่า 30 ชนิด ระเภทผลิตภัณฑ์เครื่องต้มกาแฟ Starbucks Barista ถ้วยกาแฟ
ช็อกโกแลต และอื่นๆ ประเภทขนมอบ แซนด์วิช และสลัด ประเภทสื่อบันเทิง ประเภทสินค้าระดับตลาดโลก
ได้แก่ เครื่องดื่ม "Starbucks Frappuccino" ในขวดแก้ว
"Discoveries Coffee Drink" เฉพาะในญี่ปุ่นและไต้หวัน
และอื่นๆ อีกมากมาย ประเภทบัตรสตาร์บัคส์ สามารถเติมเงินได้
อันดับที่ 6 -
Fukuoka
ประเทศญี่ปุ่น
สัญลักษณ์สตาร์บัคส์
ที่เป็นรูปนางไม้ที่สิงสถิตอยู่ตามริมแม่น้ำ
หรือบางคนก็เข้าใจว่าเป็นนางเงือกที่มีสองหาง อีกทั้งชื่อ Starbucks นั้นไม่เกี่ยวข้องกับกาแฟแต่อย่างใด เป็นเพียงชื่อที่มาจากตัวละครใน
นวนิยายเรื่อง Moby-Dick หรือ The Whale ของ Herman Melville ซึ่งเป็นนวนิยายเรื่องโปรดของหนึ่งในผู้ก่อตั้งดั้งเดิม
10 ร้าน Starbuck ที่น่านั่งที่สุดในโลก
อันดับที่ 10 - Ketchum เมือง Blaine
County Idaho สหรัฐอเมริกา
ความโดดเด่นและน่าสนใจอยู่ที่ตรงการออกแบบที่เนรมิตไม้ซุงขนาดใหญ่ให้กลายเป็นส่วนหนึ่งของร้านได้อย่างลงตัว
โดยบริเวณด้านหน้าจะมีไม้ซุงพาดบริเวณทางเข้า
ส่วนภายในก็จะนำไม้ซุงมาจัดพาดไปมาคล้ายกระโจมอินเดียแดง ซึ่งแสดงออกถึงเอกลักษณ์ของเมือง
Idoha
แห่งนี้
อันดับที่ 9 - Starbucks บนรถไฟ ใน Switzerland
สาขานี้อยู่ที่ขบวนรถไฟของ ประเทศ Switzerland
เส้นทางที่เปิดให้บริการ คือ สายที่วิ่งระหว่าง Geneva/Fribourg
และ St. Gallen โดยเปิดให้บริการวันละสองรอบเท่านั้น
เสน่ห์ของสาขานี้ อยู่ที่การเนรมิตตู้รถไฟขนาด 2 ชั้นมาดัดแปลงเป็นร้านกาแฟ บริเวณชั้นล่างจะเป็นจุดให้บริการในการสั่ง
และบริเวณชั้นบนคุณสามารถละเลียดความสุขจากกาแฟหอมกรุ่นพร้อมชมทัศนียภาพจากสองข้างทางได้อย่างสบายใจ
อันดับที่ 8 -
Shipping Container Starbucks
ตัวร้านถูกออกแบบและสร้างขึ้นจาก shipping containers เก่า
โดยมีแรงบันดาลใจมาจากการที่ Starbucks ใช้ตู้คอนเทนเนอร์ในการส่งเมล็ดกาแฟไปขายยังสาขาต่างๆ
ทั่วโลก แต่แม้จะใช้ตู้คอนเทนเนอร์เก่ามาเป็นโครงสร้างแต่ที่นี่
กลับได้รับการออกแบบให้มีความทันสมัย คลาสิคและสวยงาม
ที่สำคัญทุกอย่างที่สร้างขึ้นอยู่ภายใต้คอนเซ็ปต์คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
อันดับที่ 7 - In Ubud
Bali
เอกลักษณ์ของวิถีชีวิตที่อิงวัฒนธรรมฮินดู เริ่มจากป้ายร้านที่แกะขึ้นมาจากไม้
บริเวณตัวร้านได้รับการออกแบบให้มีสไตล์บาหลีโบราณ
ส่วนบริเวณรอบนอกรายล้อมไปด้วยตีกเก่า วัดโบราณ ที่มีอายุร่วมร้อยปี
ทีเด็ดที่สุดอยู่บริเวณด้านหลังร้าน มีบ่อบัวขนาดใหญ่ให้ความรู้สึกร่มรื่น สบายตา
ความโดดเด่นของสถาปัตยกรรมของสาขานี้อยู่ที่การนำเอาไม้สี่เหลี่ยมจำนวนกว่า
2,000 ท่อน (มาวางสลับไปมาภายในร้านที่มีขนาดพื้นที่แค่ 210 ตร.ม.
ได้อย่างลงตัว โดยโครงสร้างต่างๆ
จะใช้เทคนิคการยึดและเชื่อมต่อโดยไม่มีการตอกตะปูหรือใช้วัสดุเชื่อมต่อใด ๆ
ผนังและเพดานจะช่วยเรื่องลดการสะท้อนก้องของเสียงทำให้แม้จะเป็นเพียงร้านกาแฟเล็กๆ
แต่จะสงบ ส่วนปลายแท่งไม้ที่อยู่ในระดับความสูงของคน จะมีหุ้มพลาสติกกันกระแทก
และด้านหลังจะเปิดไปเป็นพื้นที่ outdoor
อันดับที่ 5 -
Porto
Chino ประเทศไทย
สาขานี้อยู่ในประเทศไทย ตั้งอยู่ที่ โครงการ Porto Chino
พระราม 2 โดยความน่าสนใจมาจากการออกแบบ
โดยความสวยของสาขานี้ติดอันดับต้นๆของโลกกันเลยทีเดียว
นอกจากนี้ที่นี่ยังเป็นสาขาแรกในไทยที่ให้บริการแบบ drive-thru
อันดับที่ 4 - New
Orleas French Quarter
สาขานี้ได้รับแรงบันดาลใจจาก อารยธรรมการดื่มกาแฟ
และจิตวิญญาณของศิลปิน ตั้งอยู่ในย่าน French Quater ที่เป็นแหล่งประวัติศาสตร์แห่งความมั่งคั่งของธุรกิจค้าขายเมล็ดกาแฟในอดีต
ภายในร้านจะเต็มไปด้วยงานศิลปะของศิลปินท้องถิ่น
บางส่วนของร้านจำลองห้องทำงานของพ่อค้าผู้ร่ำรวยในอดีต
และบางส่วนของร้านจำลองมาจากร้านขายยาในอดีต
อันดับที่ 3 -
Ibn
Battuta Mall (Dubai , United Arab Emirates)
เป็นสาขาที่มีการออกแบบเน้นวัฒนธรรมของดูไบ
ที่หรูหราและคลาสสิค จุดเด่นคือกระเบื้องโมเสกสี ฟ้า-เหลือง บนเพดาน และ โคมไฟ Chandelier ที่สวยงาม
อันดับที่ 2 - Bosque De Chapultepec (Paseo De la
Reforma)
เน้นความสบายแบบชิลล์ๆ ตัวร้าน จะเป็นแบบ open air มีต้นไม้ขนาดใหญ่ที่ปลูกอยู่ภายในร้าน
ทำให้ที่นี่ให้ความรู้สึกร่มรื่น สบาย น่านั่ง
มีการเอาเก้าอี้ชิงช้ามาจัดแต่งเพิ่มเติมเพื่อให้บรรยากาศสบายๆเพิ่มมากขึ้น
อันดับที่ 1 -
Fuzhou
, Fujian ประเทศจีน
ความโดดเด่นมาจากสถาปัตยกรรมแบบจีนโบราณ
ที่สะท้อนวัฒนธรรมท้องถิ่น ตัวร้านด้านหน้าให้ความรู้สึกเหมือนโรงเตี๊ยมเก่าๆ ภายในได้รับการออกแบบให้นั่งสบาย
ทันสมัย
Credit:http://www.youtube.com/watch?v=MQq8yxAn1FM
ข้อมูลและรูปภาพจาก :
http://www.painaidii.com/diary/diary-detail/001299/lang/th/
http://k1group6.blogspot.com/2011/09/blog-post.html
http://www.oakstoneconstruction.co.uk/images/starbucks-sub-banner.jpg
http://www.siamintelligence.com/onward-how-starbucks-reform-itself/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น